เมนู

พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทั้งสองนั้น ไปยังสำนักของท่านอาจารย์สญชัย
ประสงค์จะนำท่านมาสู่บาทมูลของพระองค์ แจ้งว่าลัทธิของท่านไม่มีสาระ
แล้ว กล่าวอานิสงส์ในการหาที่นี่. ท่านสญชัยตอบว่า 'บัดนี้ชื่อว่าการอยู่
เป็นอันเตวาสิกของเรา ย่อมเป็นเช่นกับการถึงความกะเพื่อมแห่งน้ำในตุ่ม,
เราไม่สามารถจะอยู่เป็นอันเตวาสิกได้,' เมื่อข้าพระองค์บอกว่า 'ท่าน
อาจารย์ เวลานี้ มหาชนมีมือถือวัตถุมีของหอมและระเบียบดอกไม้เป็นต้น
จักไปบูชาเฉพาะพระศาสดา ท่านจักเป็นอย่างไร ?' ตอบว่า 'ก็ในโลก
นี้ คนฉลาดมากหรือคนเขลามาก ?' เมื่อข้าพระองค์ตอบว่า ' คนเขลา
มาก,' ก็กล่าวว่า ถ้ากระนั้น พวกคนฉลาด ๆ จักไปสำนักพระสมณโคดม,
พวกคนเขลา ๆ จักมาสำนักของเรา, เธอทั้งสอง ไปเถอะ' ไม่ปรารถนา
จะมา พระเจ้าข้า.

ผู้เห็นผิดกับผู้เห็นถูกได้รับผลต่างกัน


พระศาสดาทรงสดับคำนั้นแล้ว ตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย สญชัย
ถือสิ่งที่ไม่มีสาระว่า 'มีสาระ' และสิ่งที่มีสาระว่า 'ไม่มีสาระ' เพราะ
ความที่ตนเป็นมิจฉาทิฏฐิ. ส่วนเธอทั้งสอง รู้สิ่งเป็นสาระโดยความเป็น
สาระ และสิ่งอันไม่เป็นสาระโดยความไม่เป็นสาระ ละสิ่งที่ไม่เป็นสาระเสีย
ถือเอาแต่สิ่งที่เป็นสาระเท่านั้น เพราะความที่คนเป็นบัณฑิต" ดังนี้แล้ว
ได้ทรงภาษิตพระคาถาเหล่านี้ว่า
8. อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสฺสิโน
เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มิจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
สารญฺจ สารโต ญตฺวา อสารญฺจ อสารโต
เต สารํ อธิคจฺฉนฺติ สมฺมาสงฺกปฺปโคจรา.